“ตาข่ายดักฝัน"...ฝันร้ายจงสลายไป....ฝันดีจงมาเยือน...


             เคยมีคนกล่าวว่า...ในคืนที่ฟ้ามืดสนิท ยามดึกสงัด... “ปีศาจฝันร้าย” จะออกมาลักพาความฝันของผู้คน พร้อมผลักให้พวกเขาเหล่านั้นจมอยู่กับโลกแห่งฝันร้ายตลอดกาล แม้ในยามตื่นนอนก็ตาม จึงทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัว และหาวิธีที่จะสกัดปีศาจฝันร้ายตนนั้น “ตาข่ายดักฝัน” หรือ “เครื่องดักความฝัน” จึงกลายเป็นตัวเลือกหนึ่งของการขัดขวางการลักพาความฝันของปีศาจฝันร้าย

            “ตาข่ายดักฝัน” หรือ “Dream Catcher” รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นเครื่องรางสำหรับช่วยป้องกันฝันร้าย เมื่อผู้คนต่างเป็นทุกข์จากฝันร้าย แต่ก็ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ จนได้มีการประดิษฐ์ Dream catcher ขึ้นมาด้วยแนวคิดหลักๆคือ ใยแมงมุม ขนนก แล้วก็หินลูกปัด และหลังจากที่ผู้คนเริ่มนำไปใช้แล้ว ปัญหาฝันร้ายก็หายไป...



            ตาข่ายดักฝันมีที่มาจากอินเดียแดงเผ่าโอจิบวี(Ojibwe) หรือชนเผ่าชิปเปวา (Chippewa) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกา ชนเผ่าชิปเปวาเชื่อกันว่า แมงมุมมีพลังอำนาจวิเศษที่สามารถทักทอใยดักจับความฝันได้เหมือนกับที่มันดักจับสัตว์เป็นอาหารนั่นเอง ส่วนชนเผ่าโอจิบวีเป็นอีกชนเผ่าหนึ่งที่นิยมประดิษฐ์ตาข่ายดักฝันไว้เป็นจำนวนมาก กลายเป็นว่าตาข่ายดักฝันเป็นสัญลักษณ์ของ “ความร่วมมือร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” ของชนเผ่าต่างๆที่เป็นกลุ่มน้อยอยู่ในอเมริกา จนกระทั่งมันกลายมาเป็นของขวัญของกำนัลจากร้านขายของที่ระลึกในเขตที่อยู่อาศัยของชาวอินเดียแดงในปัจจุบัน

            วัฒนธรรมอินเดียแดง ถือว่า “ขนนก” เป็นสัญลักษณ์ของ “อากาศ” และ “ลมหายใจ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การมีชีวิต กรรมวิธีการทำเครื่องดักฝันจะทำมาจากเกลียวเชือกจากต้นวิลโลว์ มาถักทอเป็นโครงวงกลมโดยมีตาข่ายอยู่ด้านใน ตาข่ายดักฝันถือว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้ธรรมชาติบำบัดด้วยธรรมชาติ โดยชาวพื้นเมืองของอินเดียนแดง เป็นผู้ที่คิดค้นและทำขึ้นมา มีความเชื่อว่า

           ตาข่าย จะทำหน้าที่ดักจับสิ่งที่ไม่ดี ฝันร้าย หรือ เรื่องราวไม่ดี ในความฝันของผู้ฝันนั้น
           ลูกปัด จะทำหน้าที่ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี
           ขนนก จะทำหน้าที่ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้าย ฝันร้าย ซึ่งขนนกและขนไก่ พลังงานของขนทั้งสองแบบ ให้พลังงานที่ต่างกัน และยังเป็นพลังงานของการปัดเป่าสิ่งไม่ดี ให้ลอยออกไปดังสายลม แล้วพลังงานแห่งสายลมนั้นก็พัดพาพลังงานแห่งโชคชะตาความโชคดีพัดพาเข้ามา
           ขนไก่ เป็นพลังงานแห่งนักสู้ และมีสัมผัสพิเศษ ตามสัญชาติญาณแห่งสายพันธุ์ ทำให้ผู้ที่อยู่ภายใต้ขนไก่นี้ มีพลังงานแห่งการต่อสู้ฝ่าฟัน และไม่ท้อถอยกับความท้อแท้ และมีเซนส์ในการสัมผัสสิ่งที่อยู่รอบตัว โดยที่สัมผัสนั้นอาจทำให้รู้สึกไว และหลบหลีกได้ ขนไก่จะปัดเป่าความท้อแท้ ให้สัมผัสกับสิ่งที่อยู่รอบตัว เพื่อปัญหานั้นได้แก้ไขและผ่านไป


            ทางจิตวิทยา ตาข่ายดักฝันประดับขนนกเหล่านี้จะทำหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆได้เป็นอย่างดี เพราะสายตาที่จับจ้องมองการแกว่งไกวของขนนกที่ส่ายไหวดั่งระบำขนนก จะช่วยทำให้ทารกมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางสายตาและกล้ามเนื้อต่างๆได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันมันคือเครื่องรางที่ช่วยกรองฝันดีมาสู่เด็กๆ และสกัดฝันร้ายไม่ให้มากล้ำกราย แต่ถึงกระนั้น ก็มีวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่นำไปแขวนประดับเหนือเตียงนอน จนกลายเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง แต่ทว่า การดักจับความฝันคงทำไม่ได้กับนิสัยพวกเขา เพราะวัยผู้ใหญ่นั้นจิตใจไม่ได้ใสสะอาดเหมือนเด็กๆ เครื่องดักฝันจึงอาจช่วยอะไรไม่ได้เลย

             ยังมีเครื่องรางต่างๆอีกมากมายที่เชื่อว่ามีอำนาจพิทักษ์ความฝัน  ซึ่งถูกนำมาใช้ห้อยแขวนเหนือเตียงนอนของทารกและเด็กๆเพื่อปกป้องให้พ้นจากฝันร้ายและหลบเลี่ยงพลังอันชั่วร้ายที่มองไม่เห็นได้สำเร็จ แต่หลายๆคนกลับนิยมเลือกตาข่ายดักฝัน ด้วยเพราะมนุษย์สัมผัสได้ถึงอำนาจเร้นลับจากสิ่งชั่วร้ายที่อาจซ่อนตัวอยู่ในกระจก ต้นไม้ หรือกรอบหน้าต่าง ดังนั้น การแขวน “ตาข่ายดักฝัน” ก็เพื่อช่วยปกป้องเด็กๆให้พ้นจากภัยมืด เพราะฝันร้ายเหล่านั้นจะถูกกักขังไว้ในตาข่ายไม่ให้ออกไปไหนอีกเลย จนกระทั่งถึงยามผ้าสาง ฝันร้ายจะมลายหายไปเอง ส่วนฝันดีจะถูกกรองผ่านรูตาข่ายไปสู่เด็กๆ ตลอดยามราตรี...

                 “ความฝัน” คือสิ่งที่ทุกคนก็มีเหมือนกัน จะต่างก็แค่เนื้อในของความฝัน ว่าเราจะต้องการให้ฝันนั้นเป็นอย่างไร หากมัวแต่เพ้อฝัน ไม่มีการลงมือทำในสิ่งที่ฝันไว้ ต่อให้มีเครื่องรางดักฝันซักร้อยอันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ...ขอให้ทุกคนมีฝันที่ดีตลอดไป

ความคิดเห็น