Dino X Hibari [D18]........อยู่ด้วยกันตลอดไป..............



Dino x Hibari [D18]

........อยู่ด้วยกันตลอดไป..............





………………………………………………………………………………….


"เคียวยะใกล้ถึงวันเกิดแล้ว อยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?" ร่างสูงผมทองทิ้งตัวลงนั่งข้างร่างบาง พร้อมกับแคตตาล๊อกสินค้าและการท่องเที่ยวในมือ


"เรื่องแบบนี้มันต้องแล้วแต่คนให้ไม่ใช่เหรอ?" ร่างบางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ


"แล้ววันนั้นเคียวยะว่างรึเปล่าล่ะ?" ร่างสูงเอ่ยถาม


"ก็ไม่มีกำหนดการอะไร"


"งั้นเราไปเที่ยวสวนสนุกกันมั๊ย?" ร่างสูงเอ่ยอย่างกระตือรือร้น


"โตจนป่านนี้แล้ว ยังจะไปที่แบบนั้นอีก" ร่างบางหันมาต่อว่า


"ฉันโตแล้วก็จริง แต่เคียวยะก็ยังเด็กอยู่ot"


"ใครเด็ก? พูดให้มันดีๆ" ร่างบางจ้องมองร่างสูงที่ทำหน้าจ๋อยอย่างเอาเรื่อง


"น้า~~~เคียวยะไปเถอะ ไปสนุกกันสักวัน" ร่างสูงอ้อน


"เฮ้อ~~ นายนี่มันเด็กจริงๆ" ร่างบางถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้กับสายตาเว้าวอนของอีกฝ่าย

"ตกลงใช่มั๊ย?" ร่างสูงยังคงอ้อนอีก


"อืม....." ร่างบางพยักหน้าเป็นเชิงรับ เมื่อเริ่มทนลูกตื้อไม่ไหว


"ดีจัง เคียวยะ!!” ร่างสูงโผกอดร่างบางแน่น


ปล่อยนะ! เจ้าบ้า ร่างบางสะบัดตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผล


ไว้ถึงวันฉันจะมารับนะ เดี๋ยวฉันรีบไปเตรียมของขวัญให้เคียวยะดีกว่า ร่างสูงคลายอ้อมกอด


จะไปก็ไปสิ ร่างบางเอ่ยไล่


เคียวยะ........ ร่างสูงเอ่ยเรียกเบาๆอย่างออดอ้อน


อะไรอีก........ฮะ...เฮ้ย!!” ทันทีที่ร่างบางหันมาก็ถูกคนตัวโตขโมยหอมแก้มเสียฟอดใหญ่


ไปน้า~~~~” ก่อนที่ร่างสูงจะหายลับไปจากห้องในทันที


...ครั้งหน้าเจอกัน นายโดนฉันขย้ำแน่... ถึงเสียงหวานจะแฝงไปด้วยความโมโหนิดๆ แต่ใบหน้ากลับระเรื่อไปด้วยความเขินอาย








ลั้นลา~~~ ลา~~” เสียงทุ้มแสนสดใสดังเสนาะเป็นท่วงทำนอง แทบไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นอารมณ์ดีแค่ไหน


อืม........อะไรดีน้า....อา....เอ๊ะ! ดาวตกเหรอ? ต้องเซอร์ไพรส์แน่เลย พาเคียวยะไปดูดีกว่า มือใหญ่หยิบปากกามาจดข้อความนั้นลงไปในกระดาษที่มีหัวข้อว่า......แผนการสำหรับวันเกิดเคียวยะ....แสดงให้เห็นเลยว่าเขาใส่ใจมันมากแค่ไหน
...... วันเกิดของคนสำคัญ …..


บอส!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ผู้มาใหม่พรวดพราดเข้ามาในห้องทำงาน หน้าตาตื่น


ใจเย็นๆหน่อยสิโรมาริโอ้ มีอะไรกันอีกล่ะ ร่างสูงกล่าวกับอีกฝ่ายทั้งๆที่ยังง่วนอยู่กับการหาของขวัญ


ด้านนอกครับบอส เราถูกโจมตี!” โรมาริโอ้แจ้งข่าวอย่างรีบร้อน


อะไรนะ!! แล้วทำไมไม่รีบบอก เมื่อได้ยินดังนั้น ร่างสูงพลันก็รีบวางทุกอย่าง ก่อนจะตรงไปยังที่เกิดเหตุด้านนอกทันที


ภาพการต่อสู้ระหว่างคาบัคโลเน่ แฟมิลี่และแก๊งมาเฟียฝ่ายศัตรู ดูเหมือนศึกครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพราะอีกฝ่ายนั้น ไม่พอใจที่ฝ่ายตนเสียผลประโยชน์อันมหาศาลให้กับคาบัคโลเน่ จึงคิดจะมาแก้แค้น


ออกมาทำไมครับบอส ตรงนี้มันอันตราย ลูกน้องหลายคนวิ่งเข้ามาปกป้องผู้เป็นนาย


จะให้ฉันยืนดูเฉยๆได้ไง โรมาริโอ้ ไปดูคนเจ็บก่อน รีบพาเข้าไปปฐมพยาบาลข้างใน พวกนายคุ้มกันคนเจ็บด้วย ร่างสูงออกคำสั่ง พลางหยิบ แส้ม้าพยศ อาวุธคู่กายของตนขึ้นมา


ครับ....แต่บอสก็ระวังตัวด้วยนะครับ เหล่าลูกน้องรับคำแต่ก็ไม่วายจะอดเป็นห่วงเจ้านายของพวกเขา


เหล่าชายชุดดำหลายคนพุ่งเข้าโจมตีร่างสูง แต่ก็ถูกตวัดออกมาจนหมด ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้เลย ด้วยอารมณ์และภาระหน้าที่ของผู้เป็นหัวหน้า การปกป้องแฟมิลี่นั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง


เจอกันอีกแล้วนะ ม้าพยศดีโน่แห่งคาบัคโลเน่ ผู้ที่ดูเหมือนหัวหน้าของฝ่ายศัตรูกล่าว


มาหยามกันถึงที่แบบนี้ มันจะเกินไปแล้วนะ ร่างสูงเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด แต่ก็ยังคงส่งยิ้มตอบไปอย่างท้าทาย


ก็คราวที่แล้วนายทำแสบไว้เยอะ คราวนี้ฉันเลยมาเอาคืน อีกฝ่ายโต้กลับ


นายจะทำอะไร แล้วนั่นมัน...... ร่างสูงเหลือบมองไปทางกลุ่มเมฆสีทะมึนที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ จากทางด้านหลังของศัตรู


ก็คนที่จะมาตัดสิน...ศึกครั้งนี้ของเราไง อีกฝ่ายยิ้มอย่างมีเลศนัย


หรือว่า....จะเป็น...... เมื่อกลุ่มเมฆนั้นเข้ามาใกล้ ไอความเย็นยะเยือกแผ่ขยายไปทั่ว การต่อสู้ค่อยๆซาลง เพราะสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปยังกลุ่มคนปริศนาที่มาเยือน


บอส!!....นะ...นั่นมัน...ผู้คุมกฎโลกมาเฟีย... โรมาริโอ้ที่วิ่งออกมาดูเหตุการณ์ ก็ยังได้แต่อุทานอย่างตกใจ


อืม.....วินดีเช่ ร่างสูงถึงขั้นเหงื่อตกเมื่อเห็นว่าลางร้ายเริ่มเข้าประชิดตัวของเขา


แน่นอนว่าคราวนี้.....ฉันชนะ อีกฝ่ายยิ้มอย่างผู้มีชัย


...ดีโน่ คาวัลโลเน่....ผู้กระทำผิดกฎแห่งโลกมาเฟีย นายมีความผิดฐาน...สั่งลอบวางเพลิงเผาหมู่บ้านในแทบชานเมืองอิตาลีตอนใต้...ทำให้มีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตาย..... ผู้คุมกฎเอ่ย เสียงที่เย็นผิดมนุษย์นั่นทำเอาคนที่ทนฟังไม่ได้ก็แทบสิ้นสติ


มะ....ไม่จริง บอสไม่เคยทำแบบนั้น!!!!” เหล่าลูกน้องฝ่ายคาบัคโลเน่ต่างตะโกนลั่น


พวกนายเงียบซะ เราไม่มีสิทธิ์ตอบโต้วินดีเช่ ร่างสูงสั่ง


เพียงเพราะ.....หวังผลประโยชน์จากที่ดินอันน้อยนิดนั่น.... ทั้งๆที่ไม่เคยทำผิดกฎแม้เพียงครั้งเดียว แต่ทำไมถึงได้กล้าทำ มีอะไรจะแก้ตัวมั๊ย..... ผู้คุมกฎเอ่ยถาม


นั่นสินะ ก็เพราะไม่เคยทำผิด เลยเอาความดีมาบังหน้า ก็คงเหลิงเลยกล้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น อีกฝ่ายกล่าวเย้ย


ฮึ่ย!!!!!แก!!!!!!! กล้าใส่ร้ายบอสได้ไงลูกน้องหลายคนทำท่าจะปรี่เข้าใส่ แต่ก็ถูกร่างสูงหยุดไว้


....แล้วจะว่ายังไง.... วินดีเช่ยังคงถามซ้ำ


...ฉันไม่มีข้อแก้ตัวอะไร แต่ก็มั่นใจด้วยว่าตัวเองไม่เคยสั่งให้ทำอะไรแบบนั้น ร่างสูงตอบออกไปอย่างใจเย็น


บอส.....ทำไม... โรมาริโอ้เอ่ยอย่างเป็นห่วง


เพราะยังไงความจริงก็คงต้องเปิดเผยอยู่ดี ถ้าฉันผิดจริง....ก็ลงโทษไป แต่ถ้าฉันไม่ผิด...ยังไงวินดีเช่ก็มีความยุติธรรมที่สุดอยู่แล้ว ร่างสูงยิ้ม


ถ้าตกลงยอมรับได้ก็ดี ดีโน่ คาวัลโลเน่....ถูกสั่งจองจำในคุกที่ลึกที่สุด และจะไม่ได้รับการปล่อยตัว...จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้....และมีการตัดสินต่อไป สิ้นเสียงที่เย็นผิดมนุษย์ กุญแจมือถูกใส่เข้ากับข้อมือแกร่ง ก่อนที่กลุ่มเมฆสีทะมึนจะพาตัวร่างสูงหายไปในความมืดมิด ต่อหน้าต่อตาเหล่าลูกน้องที่ยืนดูโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย


ฮะๆๆฮ่า ต้องอยู่ในคุกไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน อยู่ในหลอดแก้วแคบๆมืดๆ จมอยู่ในน้ำทั้งคืนทั้งวัน คาบัคโลเน่สิ้นชื่อแน่... หัวหน้าฝ่ายศัตรูหัวเราะอย่างสะใจ


บอสไม่ผิด ไม่ว่ายังไงพวกเราก็จะช่วยบอสออกมาให้ได้ โรมาริโอ้เอ่ยอย่างหนักแน่น เพื่อดึงกำลังที่เสียไปของลูกน้องทุกคนให้คืนกลับมา


ฮึ.....ไม่มีทางหรอก แผนของฉันน่ะสมบูรณ์แบบเชียวนะ ไปพวกเรากลับ อีกฝ่ายเริ่มล่าถอยออกไปจนหมด ฝ่ายคาบัคโลเน่จึงเริ่มเก็บกวาดเศษอาวุธที่ตกเกลื่อนกลาด พร้อมๆกับปฐมพยาบาลคนที่บาดจ็บ


คุณโรมาริโอ้ครับ....ของบอส ลูกน้องคนหนึ่งเดินนำอาวุธคู่ใจของเจ้านายมาให้ โรมาริโอ้รับมันมาไว้พลางมองด้วยสายตาเป็นห่วง


.....รอก่อนนะ.....บอส.....




5 พฤษภาคม......


"เฮ้อ.....ทำไมเจ้านั่นชักช้าอย่างนี้นะ" นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองนาฬิกาที่ข้อมือ พลางปิดหนังสือที่อ่านอยู่ลง


"♪ ♫ ♪ ♫ ♪ " เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างตัว


"จะโทรมาบอกว่า ให้รออีกแป๊บใช่มั๊ยล่ะ เจ้าม้าบ้า" ร่างบางหยิบขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรมาว่าเป็นใคร คนแรกที่นึกถึงนั้นจึงไม่พ้นคนที่ตนรอคอยอยู่


"ฮัลโหล....." ร่างบางเอ่ยเสียงเย็น เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังเริ่มไม่พอใจ


[ฮิบาริเหรอ.....นี่ฉัน รีบอร์นนะ] กลายเป็นว่าปลายสาย กลับไม่ใช่คนที่คาดไว้


"อ้อ....เจ้าหนูเหรอ มีอะไร?" ร่างบางดูจะผิดวังไม่น้อย แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ


[คือ....มันมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ เจ้าดีโน่ก็เลยไปหาไม่ได้] เสียงเล็กๆเอ่ยออกมาอย่างกังวล


"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าม้าพยศ!!" คนฟังลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว


[ตอนนี้...เจ้าดีโน่...ยังไม่ฟื้นเลย นี่ก็วันที่ 3 แล้ว] เสียงที่ทวีความเป็นห่วงขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเรื่อง....ล้อเล่น


".............." มือเรียวเผลอกำแน่น หยาดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าหวาน แต่ในลำคอกลับแห้งผาก ความกังวลท่วมท้นในดวงตา


[ตอนนี้ก็อยู่โรงพยาบาลที่เมืองนามิโมรินี่ล่ะ]


"โรงพยาบาลนามิโมริ!" สองเท้าก้าวออกไปทันที่รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั้นอยู่ไม่ไกล ถ้าทำได้.....ก็แทบอยากจะให้มันถึงทันทีที่ก้าวออกจากห้อง


[เฮ้....ฮิบาริ.....ฮิบะ..]


"ตี๊ด----" ไม่ทันที่ปลายสายจะได้พูดต่อ ร่างบางก็กดตัดสายทิ้งซะแล้ว


ไม่ถึงสิบนาทีร่างบางก็มาถึงโรงพยาบาลที่ร่างสูงพักฟื้นอยู่ ด้านหน้าเต็มไปด้วยชายชุดดำหลายคน ดูก็รู้ว่าเป็นลูกน้องของร่างสูงแน่ๆ


"คะ...คุณฮิบาริ" ลูกน้องทุกคนต่างโค้งทำความเคารพ เมื่อเห็นผู้มาใหม่ที่มีศักดิ์สูงกว่า


"อะ...อืม" ร่างบางพยักหน้ารับ ถ้าเป็นทุกครั้ง เห็นคนสุมหัวกันเยอะขนาดนี้ เขาคงขย้ำให้ตายคาที่กันหมดนี่แล้ว.....แต่เวลานี้มันไม่ใช่....


"บอสอยู่ชั้น 2 ห้องริมสุดด้านซ้ายครับ" แทบไม่ต้องรอให้ถาม ชายคนหนึ่งในกลุ่มก็ตอบสิ่งที่อยากรู้ให้


"งั้นเหรอ" ร่างบางมองขึ้นไปยังห้องที่เปิดไฟสว่างนั้น ตามที่บอก แล้วเดินขึ้นไปทันที


"แอ๊ด......." เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับภาพแรกที่เห็นคือ.....ร่างสูงที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียงผู้ป่วย บรรยากาศในห้องถึงจะไม่น่าเข้าไป....แต่สองเท้าก็ยังขัดใจก้าวเข้าใกล้ร่างนั้นมากขึ้น ใบหน้าที่เคยสดใส....หมองหม่นและซีดเผือด เสียงหายใจรวยระริน ทำเอาคนที่ได้แต่มองแทบหยุดหายใจไปด้วย


"มาเร็วดีนี่ ฮิบาริ" เสียงเล็กๆดังขึ้นจากเด็กน้อยที่นั่งอยู่


"เจ้าหนู ฉันขอถามอีกที นี่มันเกิดอะไรขึ้น" ร่างบางเดินเข้ามายืนข้างๆเตียง


ฉันก็อยากรอให้เจ้านี่ลุกขึ้นมาตอบเองอยู่หรอกนะ แต่ก็คง.....เฮ้อ~~ เจ้าดีโน่มีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์กับมาเฟียกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าฝ่ายนั้นไม่พอใจมากเลยแกล้งใส่ร้าย ว่าเจ้าดีโน่เป็นคนสั่งวางเพลิงหมู่บ้านแทบชานเมืองตอนใต้ของอิตาลี...... เด็กน้อยหันมองร่างบางที่ยืนฟังนิ่ง แต่สายตากลับไม่ละจากร่างสูงที่นอนนิ่งยิ่งกว่า....


มีคนตายเยอะเชียวล่ะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดกฎแห่งโลกมาเฟีย เจ้าดีโน่เลยถูกสั่งจองจำในคุกใต้ดินที่ลึกที่สุด 


แล้วพาออกมาได้ไง ร่างบางถามขึ้นขัด


อืม....เมื่อ 3 วันที่แล้วเราเจอหลักฐานสำคัญที่ชี้ตัวคนร้ายตัวจริงได้ ก็เลยรีบเอาไปช่วยเจ้าดีโน่ออกมา เสียงเล็กๆอธิบาย พลางแอบมองอารมณ์ของคนข้างๆ


แต่เพราะถูกขังอยู่ในหลอดแก้วนั่นตั้งหลายวัน ร่างกายที่ทนสภาพแบบนั้นไม่ไหว ก็คงยังต้องพักฟื้นแบบนี้แหละเด็กน้อยยังคงพูดต่อ


................................... แต่คนที่ดูจะเป็นกังวลกว่ากลับไม่พูดอะไรเลยซักคำ


อาการไม่รู้จะเป็นยังไง หมอบอกว่าไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ เด็กน้อยเอ่ย พลางขยับหมวกลงมาปิดหน้า


หมอนี่น่ะ ดวงแข็งมากไม่ใช่เหรอ เจอแค่นี้ไม่ตายหรอก ถึงปากจะว่าอย่างนั้น แต่มือเรียวกลับเผลอกำเสียแน่น ร่างทั้งร่างถึงกับสั่นไหว


ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ.... เด็กน้อยเอ่ยวอน


แล้วทำไมพามาที่นี่ อยู่อิตาลีจะไม่ดีกว่าเหรอ? ร่างบางพยายามควบคุมอารมณ์ก่อนจะกลับมาสนใจทางด้านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่า


เพราะเจ้านี่ ตั้งแต่ออกจากคุกใต้ดินของวินดีเช่ ก็ละเมอเรียกแต่ชื่อนาย...... เด็กน้อยตอบ


.................................... ร่างบางอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะแกล้งหันมองทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อน


เห็นโรมาริโอ้บอกว่า วันนี้เจ้าดีโน่นัดกับนายไว้ ฉันกลัวนายจะรอเก้อเลยโทรไปบอก เด็กน้อยเอ่ย ก่อนจะกระโดลงจากเก้าอี้


จะไปไหน เจ้าหนู


จะไปเคลียร์ธุระนิดหน่อยน่ะ ฝากดูแลเจ้านี่ด้วยแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะมาเยี่ยมใหม่ ว่าจบเด็กน้อยก็เดินออกไปทันที


เฮ้อ~~~ ร่างบางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง


ม้าพยศ ทำไมนายต้องเจอเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ มือเรียวกุมมือใหญ่ขึ้นเบาๆ


มือเย็น....ชะมัด ร่างาบางเอ่ย สายตาจับจ้องใบหน้าของร่างสูง หยาดน้ำใสเริ่มเอ่อคลอ ภายในห้องเงียบเหงาจนบอกไม่ถูก.....เงียบเสียจนได้ยิน.....เสียงหัวใจที่เต้นอย่างแผ่วเบา


ไหนว่าจะพาฉันไปเที่ยวไงล่ะ ร่างบางเอ่ยถาม........ถึงแม้จะรู้ว่า คนตรงหน้าจะไม่เอ่ยตอบก็ตาม


ปล่อยให้ฉันรอแบบนี้ได้ยังไง..... ถึงจะต่อว่าอย่างน้อยใจ......ก็คงจะไม่รับรู้ด้วยซ้ำ


นี่มันวันเกิดฉันนะ.....ฮึก….” ถึงจะร้องไห้.......ก็คงไม่ลุกขึ้นมาปลอบโยน


ตื่นสิ....ม้าพยศ....ฮึก...ฉันบอกให้ตื่น.....นายจะมาทิ้งไป....ไม่ได้นะ..... น้ำตาเริ่มไหลไม่ยอมหยุด ภายในจิตใจตอนนี้มีแต่ความหวาดกลัว........กลัวการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น……ถ้าอีกฝ่าย....ไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมา.....


งั้นเราไปเที่ยวสวนสนุกกันมั๊ย? ......กลัว....ว่าจะไม่มีใบหน้าที่แสนสดใสนั้น......มาให้เห็น


ดีจัง เคียวยะ .............ไม่มี...........อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น


เคียวยะ...... ........หรือถ้า.....ไม่มีแม้แต่เสียงที่เคยเรียกชื่อของเขา......อีกเลยล่ะ


ไปน้า~~~~” .........ขอร้องนะ.....อย่าให้คำลานั่น....เป็นคำสุดท้าย....ที่ฉันจะได้ยินจากปากของนาย


นี่คง...จะ...เป็นวันเกิด...ที่แย่....ที่สุด ร่างบางตัดพ้อ ใบหน้าหวานค่อยๆโน้มเข้าไปกระซิบข้างหูของคนที่หลับอยู่เบาๆ เรียวปากได้รูปพยายามฝืนยิ้มทั้งน้ำตาที่ยังคงไหลริน.......


ตื่นขึ้นมาซักทีสิ เจ้าม้าบ้า….”




....พ...ย..ศ....ม้าพยศ... เสียงเรียกจากที่อันแสนไกล ทำเอาคนที่หลงเดินอยู่ในความมืดมิดถึงกับชะงัก


ใครกัน.....แล้วที่นี่มันที่ไหน นัยน์ตาสีทองจ้องมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากความว่างเปล่า


ตื่นสิ....ม้าพยศ....ฮึก... เสียงสะอื้นเบาๆลอยเข้ามากระทบโสตประสาท


เสียงเคียวยะนี่ กำลังร้องไห้อยู่เหรอ ร่างสูงวิ่งไปตามทางที่เสียงนั้นลอยมา


...ฉัน...บ..อกให้ตื่น.....นาย..จะมาทิ้ง...ไป....ไม่..ได้...นะ..... เสียงนั้นยิ่งเบาลงเรื่อยๆ


เคียวยะ!! ได้ยินฉันมั๊ย นายอยู่ไหนน่ะ ร่างสูงพยายามตะโกนเรียกเจ้าของเสียง แต่ยิ่งวิ่งตามเท่าไหร่ก็ยิ่งห่างมากเท่านั้น


........ม้...า.........พ...ย.....ศ….” เสียงนั้นค่อยๆจางลง.......และหายไปในที่สุด


ฮะ.....แฮ่ก.......เสียงหายไปแล้ว สองขาคงล้าเต็มที ร่างสูงจึงต้องหยุดพัก


อยู่ไหนะ? เคียวยะ ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดกำลังใจ


พี่ชายฮะ...... เสียงเล็กๆดังขึ้นข้างๆ พร้อมกับมือน้อยๆที่กระตุกแขนเสื้อของเขา


เอ๊ะ!...เอ่อ เธอมาจากไหนกันน่ะ ร่างสูงหันมามองเด็กชายตัวน้อย


แถวๆนี้แหละฮะ ว่าแต่พี่ชายจะไปไหนเหรอฮะ นัยน์ตากลมโตสีรัตติกาลจ้องมองกลับมาอย่างเป็นมิตร


พี่ชายกำลังหาทางออกจากที่นี่อยู่น่ะ ต้องรีบไปหาคนๆนึง ร่างสูงยิ้ม พลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีดำแสนอ่อนนุ่ม


งั้นเราไปด้วยกันมั๊ยฮะ? เด็กน้อยถาม


เธอรู้ทางงั้นเหรอ ร่างสูงเริ่มยิ้มออกทันที


เปล่าฮะ....แต่มันก็ดีกว่าเรานั่งอยู่เฉยๆนะ เด็กน้อยแนะนำ


ฮะๆ....นั่นสินะ ฉันนี่แย่จริง ร่างสูงหัวเราะก่อนที่จะลุกขึ้นมายืนข้างๆเด็กชายตัวน้อย


ไปกันเถอะฮะ เด็กน้อยคว้ามือของร่างสูงให้เดินไปด้วยกัน ร่างสูงยิ้มให้อย่างเอ็นดูในความน่ารักและเฉลียวฉลาดเกินวัยของเจ้าตัวเล็ก


พี่ชายฮะ ตรงนั้นมีแสงสว่างด้วย ผมว่าน่าจะเป็นทางออกแน่เลย เมื่อเดินมาได้สักพัก เด็กน้อยก็สังเกตเห็นเส้นทางที่ดูเหมือนจะเชื่อมไปอีกที่หนึ่ง จึงรีบดึงร่างสูงให้รีบไป


อา....ขอให้มันใช่เถอะ ร่างสูงพึมพำ


พี่ชายรีบไปเถอะฮะ เดี๋ยวคนๆนั้นเขาจะรอ เด็กน้อยบอก


แล้วเธอล่ะ ร่างสูงเอ่ยอย่างเป็นห่วง ถ้าหากเขาไปก็คงต้องถูกทิ้งไว้ตามลำพัง


ผมก็จะไปแล้วเหมือนกันฮะ เด็กน้อยปล่อยมือ ร่างเล็กค่อยๆถอยห่างจากเขา


เดี๋ยวสิ! ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลย แล้วเธอกำลังจะไปไหน ร่างสูงเรียกเอาไว้ แต่เด็กน้อยก็ยังคงห่างออกไปอยู่ดี


ผม...ชื่อ เคียวยะฮะ......วันนี้เป็น....วันเกิดของผม...ผมต้องรีบกลับแล้ว...บายนะฮะ เด็กน้อยโบกมือลา ก่อนจะวิ่งหายไป


ดะ....เดี๋ยว....เคียวยะ!!...อะ....อะไรกัน....อ๊าก~~ ลมที่พัดมาอย่างรุนแรงไม่ทันได้ตั้งตัว ลมนั้นหอบเอาร่างสูงลอยข้ามผ่านห้วงแห่งแสงสว่างนั่นไป........ไกลออกไป.....จนแสงสุดท้ายของสติ.....ดับวูบลง.....


.......ฉัน.....จะต้อง....กลับไป..หา.....เคียวยะ....

...คีย....วยะ....อึก.......เคียวยะ แพรขนตากระพริบถี่ เพื่อปรับให้ดวงตาชินกับแสง


ที่นี่มัน.....โรงพยาบาลเหรอ....อา...ปวดตัวจัง...อ่ะ!” ร่างสูงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง ก่อนจะเหลือบไปเห็น.....


....เคียวยะ.... ร่างบางที่หลับทั้งๆที่ยังกุมมือเขาเอาไว้


อุ่นจัง.....นี่คงไม่ใช่ความฝันสินะ..... ร่างสูงอมยิ้ม พลางลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู


เพราะนาย....ฉันถึงกลับมาโลกนี้ได้....ขอบใจนะ...เคียวยะ ร่างสูงเอ่ย


อะ....อืม....ฮ้าว~ เช้าแล้วเหรอ? ร่างบางบิดตัวเล็กๆก่อนจะลุกขึ้นมานั่งในท่าปกติ


คิกๆ ยังหรอก....ตอนนี้ก็ยังมืดอยู่เลย จะนอนต่อก็ได้น... ร่างสูงแอบขำเล็กๆ กับใบหน้าอันแสนน่ารักยามตื่นนอนของคนตัวเล็ก


ฮะ...เสียงนี้มัน...มะ...ม้าพยศ มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะเพ่งมองอีกครั้งว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไป


ครับ.....ผมดีโน่ คาวัลโลเน่ มารายงานตัวแล้วครับ ร่างสูงเอ่ยหยอก


.........อึก..........ฮึก........นะ....นาย...ฟื้นแล้ว ขอบตาร้อนผ่าว หยาดน้ำใสเอ่อล้นอีกครั้ง หากแต่คราวนี้....กลับเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ


อะ.....อย่าร้องสิ....ตาแดงหมดแล้วนะ มือใหญ่ยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มใสอย่างถะนุถนอม


มือ...นาย....อุ่นแล้ว... ร่างบางเอ่ยเบาๆ พลางกุมมือนั้นมาไว้แนบแก้ม


อา....ฉันขอโทษนะ เคียวยะ...นายคงโกรธสินะ...ทั้งๆที่ฉันบอกเองแท้ๆ ว่าจะพานายไปเที่ยวสวนสนุก แต่ก็ไม่ได้พาไป.... ร่างสูงกล่าวขอโทษ พลางดึงร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น


แค่เห็นนาย...ลืมตาขึ้นมา ฉันก็โกรธไม่ลงแล้ว ร่างบางซุกหน้าลงบนแผ่นอกแกร่ง แค่ได้ยินเสียงหัวใจที่ดังชัดเจนมากขึ้นนั้น.....ก็เพียงพอแล้ว


ฮะๆ ได้ยินแบบนี้แล้วดีใจจัง.....มีอีกเรื่องนะ...คือ...ฉัน...ยังไม่ได้เตรียมของขวัญเลยล่ะ ร่างสูงสารภาพ....เอาล่ะ...คราวนี้คงโดนแน่ๆ


ช่างมันเถอะ....แค่นายยังมีชีวิต....อยู่ตรงนี้.... เสียงหวานหยุดไปชั่วครู่ วงแขนเล็กๆค่อยๆโอบรอบคอคนตัวใหญ่ไว้ ใบหน้าหวานซบลงที่บ่ากว้าง


....แค่นี้....มันก็เป็นของขวัญ....ที่ดีที่สุด....สำหรับฉันแล้ว....


คะ...เคียวยะ กลายเป็นร่างสูงที่น้ำตาคลอบ้าง เมื่อได้ยินประโยคอันแสนหวาน....ที่เป็นดั่งความในใจทั้งหมดนั่น


ฉันรักเคียวยะที่สุดเลยล่ะ.....ต่อให้เอาดาว.....เอ๊ะ!ดาว...จริงด้วย ร่างสูงเริ่มนึกย้อนถึงสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้ก่อนจะเกิดเรื่อง


มีอะไร? ร่างบางผละออกจากอ้อมกอด เมื่อเห็นอีกฝ่ายลุกลี้ลุกลนใหญ่


“มานี่เร็ว!เคียวยะ” ร่างสูงฉุดข้อมือเล็กให้วิ่งตามตนออกไป


เดี๋ยว!! นายพึ่งฟื้นนะ อย่าวิ่งเร็วนักสิ ร่างบางก็ได้แต่ร้องห้าม และวิ่งตามแรงของอีกฝ่ายที่ดึงเขามา....ทั้งสองคนขึ้นลิฟต์ ก่อนจะเดินมาจนถึงประตูทางขึ้นดาดฟ้า


ดีจังไม่ได้ล๊อคด้วยร่างสูงผลักประตูออกไปยังข้างนอก


พามาที่นี่ทำไม? ร่างบางเอ่ยถาม หลังจากมาถึงจุดหมายแล้ว


ก็วันนี้จะมีฝนดาวตกที่มองเห็นได้ชัดที่ญี่ปุ่น ฉันเลยตั้งใจว่าจะพาเคียวยะมาดู เป็นที่สุดท้ายก่อนหมดวันน่ะ ร่างสูงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี


งั้นเหรอ..... ร่างบางมองรอบๆตัว ตอนนี้พวกเขาเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าดวงดาวน้อยใหญ่


แต่นะ....กลายเป็นว่าเลยได้มาดูเป็นที่แรกเลย ร่างสูงกล่าวเซ็ง


ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวก็เที่ยงคืนแล้ว ที่สุดท้ายพอดี ร่างบางให้กำลังใจ


ฮะๆ นั่นสินะ....ฮะ..ฮัดชิ้ว!!”


เห็นมั๊ยล่ะ...บอกแล้วว่านายพึ่งฟื้น ข้างบนนี่ก็หนาวจะแย่ ร่างบางต่อว่าร่างสูงที่ดันทุรังขึ้นมา


ไม่เป็นไรหรอก...เพื่อเคียวยะ ฉันทนได้ บรื๋อ~~แต่ขอกอดหน่อยได้มั๊ย หนาวจัง ว่าจบก็กอดหมับเสียเต็มที่


ถึงจะบอกว่า ไม่ นายก็จะทำอยู่ดี แล้วจะถามทำไม ร่างบางบ่นอุบ


เคียวยะตัวอุ่นจัง..... ร่างสูงกระชับอ้อมกอด พลางซบหน้าลงกับซอกคอขาว


อืม......... ร่างบางตอบรับเบาๆ


ได้มาดูดาวตกกับเคียวยะแบบนี้....มีความสุขจัง ร่างสูงกระซิบเบาๆ


เกือบจะไม่ได้ดูแล้วซิ ร่างบางเอ่ยแกล้ง


ก็นะ.....ถ้าไม่เพราะเคียวยะล่ะก็ ฉันก็ไม่มีทางฟื้นแน่ๆ ร่างสูงคิดถึงตอนที่ตนหลงอยู่อีกโลกนึง


ฉันไปทำอะไรร่างบางถาม


ก็เพราะความเป็นห่วงของเคียวยะ มันส่งไปถึงโลกนู้นเลยนะสิ .....โอ๊ย!! เจ็บนะตีทำไมอะ  เพราะพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด ร่างสูงเลยโดนตีเสียผัวะใหญ่


เลิกพูดบ้าๆซะที นายน่ะห้ามไปไหนอีกเลยนะ ร่างบางขู่ใส่


คร้าบ~~บครับ อ่ะ!...นั่นไงเคียวยะดาวตก อธิษฐานสิ ร่างสูงบอกพลางชี้ให้ร่างบางดู


อืมๆ........... ร่างบางพยักหน้า มือเรียวกุมขึ้นเหมือนสวดภาวนา......ดูเหมือนคำขอท่าทางจะยาว.....เพราะดูจะนานผิดปกติ


เคียวยะ ขอว่าอะไรเหรอ นานเชียว ร่างสูงถามเมื่อเห็นร่างบางเงยหน้าขึ้นแล้ว


บอกไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันไม่เป็นจริง ร่างบางอมยิ้ม


ห๊า!! มีงี้ด้วยแปลว่าขอเยอะน่ะสิ เลยกลัวดาวจะทำให้ไม่ได้เหรอ ร่างสูงหยอก


เปล่า.....ขออย่างเดียว ร่างบางเอ่ยขัด


แล้วบอกฉันได้มั๊ยว่าอะไร ถึงดาวจะทำให้ไม่ได้นะ แต่ถ้าฉันทำได้ ฉันก็จะทำแทนให้ ร่างสูงเอ่ยอย่างมาดมั่น


เป็นคำขอ.....ที่นายคนเดียวเท่านั้นแหละ......ที่จะทำได้ ร่างบางแอบเผยนิดๆ


อะไรอ่ะ?!” คำตอบนั้น กลับยิ่งทวีความสงสัยให้ร่างสูงขึ้นไปอีก


เอียงหูมาสิ....... ร่างบางบอกสั่ง


อื้อ.......... ร่างสูงเอียงหน้าเข้าใกล้


...................................... ร่างบางกระซิบเบาๆ เพื่อให้เรื่องนี้รู้แค่เพียงเราสอง.....


แน่นอน.....เคียวยะ ฉันเองก็เหมือนกัน ร่างสูงยิ้มอย่างดีใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ร่างบางขอ


แน่ใจเหรอว่าทำได้


อืม......สัญญาเลย...ด้วย...จูบนี้ ว่าจบริมฝีปากได้รูปก็กดประทับจุมพิตบนริมฝีปากเรียวสวย......ต่างว่าคำสัญญานั้นมี.....ดวงดาวนับล้านเป็นพยาน.......


นี่....ฉวยโอกาสอีกแล้วนะ ร่างบางต่อว่า เมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปากออก


ก็เคียวยะน่ารักนี่ ฉันก็เลยรัก.....จนหมดหัวใจ....รักยิ่งกว่าใครๆเลย ร่างสูงหยอดคำหวาน


ให้มันจริงเถอะ....แล้วที่ขอไปนั่นก็ทำให้ได้ด้วยล่ะ ใบหน้าหวานขึ้นสีนิดๆ แต่เจ้าตัวก็ยังคงส่งคำขู่มาให้ไม่เลิก


ครับผม....ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายอิตาลี ร่างสูงเอ่ยพร้อมทำท่าประกอบหนักแน่น


พอได้แล้ว ลงไปเถอะ เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดทั้งคู่ ว่าจบร่างบางก็เป็นฝ่ายลากร่างสูงกลับไปบ้าง


ภายใต้ท้องฟ้าสีครามที่ปกคลุมเหนือพื้นปฐพีและมหาสมุทรอันแสนกว้างใหญ่.......ดวงดาวที่ได้รับคำอ้อนวอนให้เป็น....พยานในคำสัญญาวันนี้.....หากดาวดวงน้อยที่อยู่ไกลๆนั้นทอแสงแทนการยิ้มของมัน.....คืนนี้คงเป็นคืนที่สว่างไสวที่สุด.....สายลมที่พัดเอื่อยๆ....ก็ยิ่งคงจะช่วยตอกย้ำคำอธิษฐาน.....ที่แสนสำคัญนี้.....ให้คงอยู่ตลอดไป......เฉกเช่นสายลมที่ยังคงพัดเรื่อยไป.....ชั่วนิจนิรันดร์




อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ......ม้าพยศ

ความคิดเห็น