แค่..."สร้อยวนศาสตร์" อาจไม่พอ...


          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ณ มหาวิทยาลัยสีเขียวแห่งทุ่งบางเขน ในคณะที่เปิดการเรียนการสอนเกี่ยวกับศาสตร์ด้านการป่าไม้ นิสิตตัวน้อยหลายร้อยชีวิตที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเรียนยังสถาบันแห่งนี้ ต่างตั้งใจไขว่คว้าความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้ถึงจุดหมายในวันที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรและก้าวออกไปเพื่อเป็นนักการป่าไม้อย่างภาคภูมิ..... ถ้าคุณวาดฝันไว้ว่าเส้นทางนี้จะโรยด้วยกลีบกุหลาบดังเช่นที่กล่าวไว้ข้างต้นละก็ คุณคิดผิด!!


          ชีวิตภายในรั้วสีน้ำตาลของบ้านนาม "วนศาสตร์" นอกจากจะไม่สบาย มันอาจจะไม่สนุกด้วยสำหรับใครหลายคน ของขวัญชิ้นแรกที่ทุกคนจะได้รับเหมือนๆกันหลังจากได้เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านหลังนี้ คือ"สร้อยวนศาสตร์" ถึงจะบอกว่าเป็นสร้อย แต่มันเป็นเพียงคำ 5 คำ ที่ถูกสั่งให้ท่องจำเสมอๆ ท่องซ้ำๆย้ำๆ วนไปวนมาอย่างไม่รู้วัตถุประสงค์ของคำสั่งนั้น...


          "วนศาสตร์ เข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน สามัคคี" บนเส้นทางของการเป็น "วนกร" ที่หลายคนกำลังก้าวเดิน คุณจะได้รู้ว่าสร้อยเส้นนี้มีค่ามากแค่ไหน ก็ต่อเมื่อคุณได้เผชิญหน้ากับบททดสอบนานับประการที่จะโถมเข้าใส่คุณตลอดระยะเวลาสี่หรือห้าปีของชีวิตมหาวิทยาลัย และอีกกว่าครึ่งชีวิตในการทำงานหลังสำเร็จการศึกษา คุณจะได้พบว่าตั้งแต่ก้าวแรกของการได้ชื่อว่าเป็น "นิสิตวนศาสตร์" และสวมสร้อยเส้นนี้ไว้ มันจะคอยเป็นสิ่งเตือนให้คุณพึงระลึกอยู่เสมอว่า คุณจำเป็นต้อง "เข้มแข็ง" ทั้งกายใจ พร้อมที่จะรับแรงปะทะรอบด้านที่จะเข้ามา ทั้งการเรียน การปรับตัว การใช้ชีวิต ผู้คน และสิ่งแวดล้อม พร้อมที่จะ "กล้าหาญ" ฟันฝ่าอุปสรรคนับร้อยนับพันที่จะเกิดขึ้นอย่างยากเกินจะคาดเดา และไม่ขลาดเขลาที่จะทำในสิ่งที่สมควร ถึงจะประสบกับสิ่งที่ทำให้ลำบากกาย ไม่สบายใจ ก็ต้อง "อดทน" ให้ผ่านพ้นไป เพื่อให้ถึงยังจุดหมายปลายทางที่ใฝ่ฝัน แต่เส้นทางนี้ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะทิ้งคุณให้เดินคนเดียว คุณยังมีเพื่อนที่จะคอยค้ำจุนและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ดังนั้น "สามัคคี" จะกลายเป็นอีกพลังที่ผลักดันให้คุณก้าวต่อไป แต่ทั้งหมดที่กล่าวมามันยังไม่ใช่ครึ่งของความเป็น "วนศาสตร์" ที่แท้จริง มันมีอะไรที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าที่คุณเข้าใจ

          "วนศาสตร์" คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของป่าไม้ นั่นหมายความว่า เมื่อจบการศึกษา คุณจึงเป็นหนึ่งในความหวังที่จะสานต่องานดูแลรักษาพื้นที่ป่าของชาติ ภาระหน้าที่นี้จะยิ่งใหญ่กว่าที่คุณเคยพบเจอมา แค่การจะเรียนให้จบตามหลักสูตรและแบกชื่อสถาบันที่เปิดการเรียนการสอนเรื่องการป่าไม้อย่างเต็มรูปแบบเพียงแห่งเดียวของประเทศไว้บนบ่า มันก็หนักหนาเกินบรรยายแล้ว แต่การจบออกไปเพื่อเป็นผู้ทำหน้าที่ปกป้อง ดูแล ฟื้นฟูป่า มันยิ่งยากกว่า สาหัสกว่า จนเกินสองบ่าเล็กๆของใครซักคนจะรับไหว ลองถามใจตัวเองดู...คุณพร้อมแล้วหรือยัง?

          "ครึ่งทางวนกร" ฟังดูเหมือนคุณเหลือระยะทางอีกเพียงครึ่งเดียวก่อนที่จะถึงฝั่ง แต่นี่ยังเป็นแค่ทางเส้นเล็กๆเส้นแรกของคุณ วันข้างหน้าถนนสายนี้จะยังคงขยายออก ไกลขึ้น ลำบากมากขึ้น และทำให้คุณเหนื่อยยิ่งขึ้น บั่นทอนกำลังใจ แรงกาย จนคุณอาจท้อแท้และท้อถอย วันนั้นคุณจะได้รู้ถึงความสำคัญของของขวัญชิ้นแรกและชิ้นเดียวจากบ้านหลังนี้ที่จะติดตัวคุณไปตลอดชีวิต กำสร้อยเส้นนี้ให้มั่น เพราะ "การจะเป็นวนกรที่สมบูรณ์ แค่สร้อยวนศาสตร์....อาจไม่พอ"



“วนศาสตร์” เป็นหนึ่งทางแสนลำบาก
อาจเอ่ยยากทำอย่างไรจะผ่านได้
จึงขอฝากคำเหล่านี้แก่เจ้าไป
ผู้มาใหม่ที่พร้อมใจ...เข้าเผชิญ

“เข้มแข็ง” หนึ่งคำแรกจำให้มั่น 
แม้อุปสรรคไม่หวาดหวั่นไม่หน่ายหนี
บททดสอบอาจมากมายไม่ปราณี
จงก้าวไปสุดที่มีด้วยกาลัง

“กล้าหาญ” นั้นตามมาเป็นคำสอง 
อย่าใช้ด้วยลำพอง...ว่าตนแกร่ง
จงตริตรองสิ่งใดควรแสดง 
ทุ่มเทแรงลบความกลัวใจจิตใจ

“อดทน” คำสามความหมายมาก
แม้นลำบากฝืนกล้ากลืนใจท้อถอย
หากเพื่อถึงจุดมุ่งหมายที่รอคอย 
อีกมากน้อยต้องเพียรสู้และฝ่าฟัน

“สามัคคี” คำสี่นี้หมายถึงมิตร 
ผู้ร่วมทางที่ร่วมคิดและร่วมฝัน
หากไร้เพื่อนร่วมทางไปด้วยกัน 
อาจจะบั่นทอนจิตใจ...จนหมดลม

จงจำไว้ให้แม่นยำ คำเหล่านี้
“วนศาสตร์ เข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน สามัคคี” ที่บอกกล่าว
จะคอยย้ำเตือนใจทุกย่างก้าว

ของเส้นทาง “ป่าไม้” ที่ทอดยาว...ตลอดไป

สีม่วง วนศาสตร์77
คราึ่งทางวนศาสตร์ 2017

ความคิดเห็น