Dino X Hibari [D18] “....คนที่เธอไม่ต้องการ....” [Part 1]



คำว่า ฉันรักเธอ อาจใช้เวลาเพียงชั่ววินาทีที่จะบอก

แต่จะทำให้เขารู้ว่า คุณรักเขามากแค่ไหน..........

.....อาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิต..............

แล้วถ้าหากคนที่คุณรัก.......

เขาไม่อยากจะรับรู้มันเลยล่ะ..........???




เคียวยะ!! คิดถึงจังเลย เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาได้ ร่างสูงก็รีบโผเข้ากอดร่างเล็กๆบนโซฟาแทบจะทันที

ออกไปห่างๆ ไม่งั้นฉันจะขย้ำนายให้นอนตายอยู่ตรงนี้แหละ ก็นะ.....ถ้าไม่ติดอาวุธคู่กายที่ดึงออกมาใช้กันไว้

โธ่....เคียวยะล่ะก็ ฉันคิดถึงนี่นา ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ร่างสูงออดอ้อน

2 วัน มันนานตรงไหน? ร่างบางตอกกลับ

นานสิตั้ง 48 ชั่วโมงเชียวนะ ฉันแทบขาดใจตายเลยรู้มั๊ย ร่างสูงยังไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะอ้อนต่อ

แล้วทำไมไม่ตายไปให้รู้แล้วรู้รอดล่ะ จะได้สิ้นเรื่องไป ถึงอย่างงั้น ร่างบางกลับไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อนสักนิด

แง่.......เคียวยะใจร้าย ไม่ได้ด้วยอ้อนก็ร้องกันไปเลย ดูสิจะเห็นใจกันบ้างรึเปล่า

ไม่ต้องมาทำตัวไร้สาระ ไปไกลๆเลยไป น่ารำคาญ!!” เสียงดังชัดเจน...ผลคือ ไม่สะเทือนแม้แต่น้อย

เคียวยะ...นายจะไม่เห็นใจความรักที่ฉันมีต่อนายบ้างเลยเหรอ เอาวะ....มุกนี้แหละ แจ่ม!!! อ้อนสุดใจ

.................................. หนักกว่าเดิม เงียบไปเลย........

เคียวยะ ฉันน่ะ... งั้นอันต่อไป ต้องได้ผลแน่.....

พอที!! จะออกไปดีๆหรือว่าจะให้ฉันโยนนายออกไป ร่างบางลุกขึ้นพร้อมกับออกคำสั่งเสียงแข็ง แทบไม่ต้องบอกก็คงจะรู้กันอยู่ ว่าความอดทน...สิ้นสุดลงแล้ว

ดะ...เดี๋ยวก่อนเคียวยะ ฉันเอาของฝากมาด้วยนะ ขนมที่นายชอบไง เมื่อรู้สึกได้ว่าเริ่มไม่เข้าท่าแล้ว ร่างสูงจึงรีบกระโดดมาหยิบถุงขนมมากมายมายื่นให้กับร่างบาง

นายคิดว่า ฉันเป็นคนเห็นแก่ของพวกนี้รึไง เอาออกไปเลยนะ ทั้งคนทั้งของนั่นแหละ ไป!!!” เสียงหวานตวาดลั่น ทำเอาร่างสูงแทบทำอะไรไม่ถูก

งั้นฉันไปนะเสียงที่ดูจะดีอยู่เมื่อครู่ อ่อยลงจนแทบกลายเป็นเสียงกระซิบ

ก็ไปสิ!!” ร่างบางเอ่ยไล่

            เมื่อแผนการไม่สำเร็จ ร่างสูงจึงได้แต่เดินคอตกออกมาจากห้อง สีหน้าที่ปวดร้าวจนสุดจะทน หมองหม่นเกินจะบรรยาย ใครมาเห็นเข้าคงไม่เชื่อว่านี่คือ ดีโน่ ม้าพยศแห่งคาบัคโรเน่ ซึ่งเป็นผู้ที่ร่าเริงอยู่เสมอ

ให้ตายเถอะ ฉันนี่มันไม่ได้เรื่องเลยแฮะ ร่างสูงเอ่ย พลางเดินมายังม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้

ไม่เป็นไรนะบอส เคียวยะเป็นคนใจแข็งมาก อีกซักพักก็คงดีเอง โรมาริโอ้ลูกน้องคนสนิทปลอบใจ

แต่ฉันเริ่มจะท้อแล้วนะ มันเหนื่อยมากที่ต้องคอยปั้นหน้าว่าตัวเองมีความสุข ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้

บอส.... สายตาของผู้เป็นลูกน้องได้แต่ส่งมาว่า เป็นห่วง แต่ก็คงช่วยอะไรได้ไม่เท่าไหร่

ไม่เป็นไร...ฉันจะทน ยังไงซะ ฉันก็บอกไปแล้วนี่ว่า รักเคียวยะ ร่างสูงพยายามยิ้มออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล

เอ่อ....บอส แต่ถึงยังไงอีกฝ่ายก็คงรู้

เถอะนะ ไปลองแผนต่อไปกันดีกว่า ว่าจบร่างสูงก็เดินนำออกไป

บอสไม่ต้องฝืนก็ได้นะ คนข้างหลังเอ่ยบอก

ใครว่าฉันฝืน....เปล่าซักหน่อย ถึงปากจะว่างั้น แต่ใจก็คงรู้      เพราะคนเรามีขีดจำกัดความอดทนที่ต่างกัน แต่เมื่อมันเลยขีดจำกัดนั้นไปแล้วก็คงจะ....ทนต่อไปอีกไม่ไหว   ไม่ว่าจะพยายามทนซักเท่าไหร่ แต่วันหนึ่งความอดทนนั้นก็ต้อง.........หมดไป









แต๊น~~ที่นี่แหละ เคียวยะ ร้านอาหารสุดอร่อย แถมบรรยากาศก็ดี ร่างสูงสง่าเดินลงจากรถเก๋งคันหรูพร้อมๆกับร่างบางที่ตามลงมา

ฉันน่ะ ตระเวนหาจนทั่วเลยล่ะ กว่าจะเจอร้านนี้ได้ก็แทบแย่เลย ร่างสูงกล่าวด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ผิดกับคนข้างๆอย่างสิ้นเชิง....

จะเข้าไปได้รึยัง เสียงหวานเอ่ยเรียบ ทำเอาอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มอยู่ หุบยิ้มเสียทันที

นะ...นั่นสินะ เข้าไปกันเถอะ ร่างสูงกล่าวตะกุกตะกัก เพราะเริ่มรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ร่างบางสร้างขึ้น

            ทั้งสองเดินเข้ามาภายในร้านที่จัดสไตล์บ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ห้องถูกจัดอย่างง่ายๆแต่แฝงไปด้วยความเป็นระเบียบและหรูหรา ภาพของต้นซากุระที่ถูกบรรจงวาดลงบนผนังบานประตูไม้ไผ่แทนการใช้เพียงผ้าแบบธรรมดา โต๊ะไม้อย่างดีและเบาะรองนั่งทำจากผ้าไหมที่จัดไว้ตามจำนวนที่แขกต้องการ ด้านหน้าเป็นระเบียงที่ยื่นออกไปภายนอกซึ่งเป็นสวน น้ำตกเล็กบนกระบอกไม้ไผ่ บอนไซดัดต้นใหญ่ดูงดงาม ดอกไม้ที่พากันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆชวนให้ผ่อนคลาย ทุกอย่างล้วนแล้วถูกคัดสรรมาอย่างดี ราวกับสิ่งมีค่าหายาก สมชื่อร้าน 宝石 (โฮเซะคิ) ที่แปลว่า อัญมณี

เชิญด้านในค่ะ พนักงานหญิงในชุดกิโมโนเดินเข้ามาต้อนรับทั้งคู่

คุณดีโน่ คาวัลโลเน่ 2 ที่ใช่มั๊ยคะ? หล่อนถามพร้อมกับยกน้ำชาในชุดเครื่องเคลือบลายสวยเข้ามาให้

ใช่ครับ ร่างสูงยิ้มตอบ

งั้นเดี๋ยวทางเราจะยกอาหารที่สั่งไว้เข้ามาเลยนะคะ หล่อนเอ่ยพลางรินน้ำชาและจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะ

ได้ครับ ร่างสูงพยักหน้า หล่อนโค้งเป็นเชิงรับคำสั่งก่อนจะออกไปจากห้อง

เป็นไงเคียวยะ ถูกใจมั๊ย?ร่างสูงเอ่ยถามคนตรงหน้า ที่เอาแต่จ้องมองออกไปทางสวนด้านนอก

ก็สวยดี ร่างบางเอ่ยตอบแบบไม่สนใจ เหมือนกับว่าแค่ตอบไปงั้นๆ

ถ้าเคียวยะชอบ ฉันก็ดีใจ ร่างสูงเอ่ยเข้าข้างตัวเอง ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ.....ว่ามันไม่ใช่เลยสักนิด

ขอโทษที่ให้รอนะคะ อาหารที่สั่งไว้ได้แล้วค่ะ พนักงานคนเดิมกลับมาพร้อมกับอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้

            แทบหาคำบรรยายใดๆมาพูดไม่ได้ อาหารแต่ละจานที่ถูกยกเข้ามาพูดได้คำเดียวว่า อลังการ ไม่ว่าจะเป็น นิงิริซูชิ ซาชิมิปลาดิบ ทั้งแซลมอน ทูน่า  ปลาโคฮาดะ ปลาฮามาจิ ปลาหิมะ หมึกยักษ์ ไข่ปลาแซลมอน กุ้งมังกร ปูเนื้อจากฮอกไกโด หอยเชลล์ หรือแม้กระทั่งหอยเม่น ทั้งสดและการจัดแต่งก็สวยงาม ภาชนะที่ใช้ใส่ก็เลือกมาแล้วว่าเข้ากับอาหารชนิดนั้นๆ จานนั้น...จานนี้...จนแทบเต็มโต๊ะ

หากต้องการอะไรเพิ่ม ก็สามารถเรียกได้ตลอดเลยนะคะ หล่อนว่าพลางถอยออกห่างเมื่อยกอาหารจานสุดท้ายเข้ามา

ขอบคุณครับ ร่างสูงตอบรับ

ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวนะคะ เมื่อเอ่ยจบหล่อนก็หายออกไปจากห้องอีกครั้ง

กินกันดีกว่า เคียวยะ ทานแล้วนะครับ~~” ร่างสูงกล่าวก่อนจะลงมือทาน พร้อมๆกับร่างบางที่ไม่ได้มีเสียงเอ่ยตอบอะไร

อร่อยมั๊ย? เคียวยะ ร่างสูงเอ่ยถามเมื่อรู้สึกได้ถึงความเงียบที่เข้าครอบงำห้องนี้เสียหมด

อืม....... เป็นการตอบที่สั้น...ง่าย...แต่หาความหมายได้ยากเหลือเกิน   จากอาหารที่อร่อยๆกลับเริ่มขมจนไม่ได้รสชาติเสียแล้ว สำหรับร่างสูงที่กินไป...จ้องมองร่างบางที่ทำหน้าไร้อารมณ์ไป...พูดง่ายๆ...ทุกข์ใจสุดๆ

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้....รู้แต่อาหารบนโต๊ะแทบไม่ได้ถูกแตะต้องเลย...ถ้าจะถามตอนนี้ว่า อร่อยมั๊ย?’     ก็คงจะไม่ได้คำตอบเป็นแน่

อะ....อิ่มแล้วเหรอเคียวยะ ร่างสูงเอ่ยเมื่อเห็นอีกฝ่ายรวบตะเกียบไว้แล้ววางมันลง

อืม.... เหมือนเดิมตอบแบบไม่มีกระใจจะตอบ

แต่...เคียวยะกินไปไม่ได้เยอะเลยนะ ฉันแทบนับคำได้ ร่างสูงกล่าวขัด

ก็นายเล่นสั่งมาหยั่งกับกินกันเป็นสิบคน ใครจะไปกินไหว ร่างบางต่อว่า

งะ...งั้นเหรอ ขอโทษทีนะ เอ่อ....เคียวยะเอาของหวานมั๊ย? ร่างสูงก็เลยได้แต่เออออไป

ไม่...ฉันอยากกลับแล้ว ร่างบางว่าพลางเตรียมตัวจะลุกออกไป

แต่นี่มันยังไม่หมดเลย เสียดายออก ร่างสูงเอ่ยก่อนจะมองดูอาหารที่ยังเหลือเต็มโต๊ะ....ทั้งที่จริงๆแล้วก็แค่อยากรั้งร่างบางไว้เท่านั้น....

ถ้างั้นนายก็อยู่กินให้หมดแล้วกัน ฉันจะกลับ ว่าจบร่างบางก็เดินออกไปจากห้องทันที

ดะ...เดี๋ยวเคียวยะ ฉันจะให้คนไปส่งนะ ร่างสูงทำท่าจะตามไป แต่เพราะท่าทางที่เย็นชาของอีกฝ่ายก็ทำเอาขาแทบไม่มีแรง....เพราะรู้ว่าถึงตามออกไปก็คงไม่มีประโยชน์

ก็เหมือนเดิม.....ไม่เห็นใจกันเลยจริงๆ ร่างสูงก้มหน้าลงต่ำ พยายามเก็บคำพูดที่แสนจะน้อยใจไว้

บอส....ทำไมเคียวยะรีบออกไปแบบนั้นล่ะ โรมาริโอ้ที่รออยู่ข้างนอกเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ด้านในดูจะไม่ปกติ

.....ไม่มีอะไร เคียวยะแค่ไม่พอใจเท่านั้นเอง ร่างสูงเอ่ยออกมา ทั้งๆที่ยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้น

ใจเย็นๆนะบอส เคียวยะคงจะ..... ผู้เป็นลูกน้องทำได้แค่ปลอบ....จนไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาใช้ได้อีก

ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ นายออกไปก่อนเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว...... ร่างสูงนั่งนิ่ง....มือใหญ่กำแน่นบนหน้าตัก

ได้ครับบอส....เดี๋ยวพวกเราจะรออยู่ข้างนอก โรมาริโอ้พูดจบก็ออกไป..... จนตอนนี้ในห้องเหลือเพียงร่างสูงคนเดียว บรรยากาศกลับสู่ความเงียบ   เงียบเสียจนได้ยินเสียงของหัวใจ.....ที่เต้นอย่างแผ่วเบา

แปะ....แปะ.... ความเสียใจก่อตัวขึ้นภายในอก จนกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตาจากหัวใจ.....จะมีสักกี่ครั้งที่ผู้ชายคนจะหนึ่งร้องไห้ออกมา.....ถึงแม้จะไร้เสียงสะอื้นก็ตาม........หากไม่เจ็บปวดมากมายจน...แทบขาดใจ


ฉันจะ....ทนต่อไป...ยังไง?.....เคียวยะ....ถ้านายยังเป็นแบบนี้


ในเมื่อนาย..............ไม่เคยเปิดใจรับรู้มันเลย.....ความรู้สึกของฉัน


...........................ฉันจะรักนายต่อไป................ได้อีกนานแค่ไหนกัน








เคียวย้า.................................า เสียงทุ้มสดใสดังมาแต่ไกลทำเอาร่างบางที่กำลังกินข้าวอยู่ถึงกับอารมณ์ขึ้น

คุซาคาเบะเอาไปเก็บซะ ร่างบางเอ่ยบอกลูกน้องของตน

เที่ยงแล้ว เคียวยะ...กินข้าวกัน อ้าว~~กินแล้วเหรอ ร่างสูงรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับกล่องข้าวของตน แต่เมื่อเห็นจานข้าวในมือของคนที่เดินสวนออกไปก็พาลเอาอารมณ์ที่กำลังดีๆอยู่หายไปด้วย.....

อืม... ร่างบางตอบสั้นๆ พร้อมกับยกน้ำชาขึ้นดื่ม

แย่จังเนอะ ฉันอุตส่าห์ทำเองเลยนะ ถึงแม้จะให้โรมาริโอ้ช่วยสอนก็เถอะ ร่างสูงว่าพลางวางกล่องข้าวลงบนโต๊ะ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆร่างบาง

เคียวยะไม่กินด้วยกันจริงๆเหรอ? ร่างสูงว่าพลางหยิบกล่องข้าวขึ้นมาเปิดเตรียมพร้อมจะกิน

ไม่.....ฉันอิ่มแล้ว ร่างบางปฏิเสธพร้อมกับหยิบแฟ้มรายงานขึ้นมาตรวจอย่างขะมักเขม้น

น้า.......เคียวยะซักคำนึงก็ยังดี.... ร่างสูงออดอ้อนก่อนจะตักข้าวกล่องแล้วทำท่าจะป้อน

ไม่เอา ร่างบางยังคงไม่ตอบรับความหวังดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงล้มเลิกความตั้งใจ

คำเดียวเอง......นะ คำเดียวร่างสูงยังคงอ้อน โดยไม่ได้ดูอารมณ์ของอีกฝ่าย

ก็ฉันบอกว่าไม่ไง!!!!!” ร่างบางตวาดลั่น พร้อมกับปัดมือของร่างสูงออกอย่างแรง

คะ....เคียวยะ ร่างสูงถึงกับชะงัก

ฉันบอกว่า อิ่มแล้ว นายไม่ได้ยินรึไง!!!!” ร่างบางว่าก่อนจะโยนแฟ้มลงบนโต๊ะ

เคร้ง!!!!” โชคไม่ดีที่มันไหลไปโดนเข้ากับกล่องข้าวจนตกลงไปบนพื้นหกกระจัดกระจาย

ฉะ....ฉันขอโทษ

นายมันก็พูดเป็นแต่คำว่าขอโทษนั่นแหละ คิดว่าฉันเป็นคนที่ให้อภัยง่ายๆรึไง!!” ร่างบางยังคงต่อว่าเป็นชุด

ก็ฉัน......รักเคียวยะนี่ ฉันก็แค่อยากทำอะไรเพื่อนายบ้าง ร่างสูงพยายามแก้ตัว

รักเหรอ? อะไรๆนายก็บอกว่ารัก คำว่า รัก ของนายมันง่ายเกินไปแล้ว ถ้านายจะเอามันมาอ้าง ก็เอาไปอ้างกับคนอื่น ไม่ใช่ฉัน แต่ร่างบางก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายโกรธ ซ้ำยังจะโกรธมากกว่าเดิมด้วย

แต่ฉันรักเคียวยะคนเดียว แล้วจะให้ฉันไปบอกใครที่ไหนกันร่างสูงเริ่มจะไม่อยากโต้เถียง เสียงที่เอ่ยออกมาก็แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

เพราะอย่างนี้แหละฉันถึงได้เกลียดพวกสัตว์กินพืชที่อ่อนปวกเปียกอย่างพวกนาย ร่างบางว่าพลางกอดอกมองอีกฝ่าย ที่ยังคงนั่งก้มหน้าเหมือนคนสำนึกผิดอยู่ที่พื้นข้างๆกับกล่องข้าวที่เขาตั้งใจทำ ……

อึก............ เกลียด.......เกลียดฉันงั้นเหรอ ที่แท้ก็คิดแบบนี้เอง นายถึงไม่สนใจฉันเลยแม้แต่น้อย

ฉันเกลียดขี้หน้าคนอย่างนายจริงๆ ร่างบางยังคงย้ำคำว่า เกลียดโดยไม่รู้เลยว่ามันจะทำร้ายใจของใครคนๆหนึ่งเข้าอย่างจัง

ขอบคุณนะ...เคียวยะ...ที่บอกให้ฉันรู้ตัว ร่างสูงเอ่ยอย่างแผ่วเบา

จะไปไหนก็ไป อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ร่างบางว่าพลางเดินไปยังหน้าต่าง แล้วก็ไม่ได้หันกลับมาสนใจอีก

อืม......ฉันจะไม่มาให้เคียวยะ เห็นหน้าอีก จะไม่มายุ่งหรือมาทำให้รำคาญเลย แต่ถ้านายเห็นหน้าฉันอีก จะซัดฉันให้ตายอยู่ตรงนั้นเลยก็ได้ ร่างสูงเอ่ยเสียงดังขึ้นเพื่อที่จะให้ร่างบางได้ยิน

อย่าลืมคำพูดตัวเองล่ะ!!! เก็บของของตัวเองกลับไปให้หมดด้วย อย่าให้มันเลอะห้องฉัน แล้วก็ออกไปซะ ร่างบางเย้ยหยันคำพูดของร่างสูง เพราะเชื่อว่ายังไงก็คงเป็นไปไม่ได้

........................................... ไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมา จะมีก็แต่มือใหญ่ที่ยังคงเก็บกวาดเศษกล่องข้าว ที่หกอยู่เต็มพื้น......ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ เศษ หัวใจที่แหลกละเอียด อยู่แทบเท้าของบุคคลที่เหยียบย่ำมัน.....

ลาก่อนนะ เคียวยะ คำลาที่ฝืนพูดออกมา ทั้งๆที่รู้ว่าในใจมันเจ็บปวดแค่ไหน.....ไร้คำตอบรับใดจากร่างบาง ทุกอย่างหายไปพร้อมๆกับร่างสูงที่เดินจากมา.....................










บอส.........เป็นอะไรไป โรมาริโอ้เมื่อเห็นเจ้านายเดินออกมาด้วยท่าทีที่แทบไร้เรี่ยวแรงจึงรีบเข้าไปถาม

มันจบแล้วโรมาริโอ้......มันจบแล้วจริงๆ ร่างสูงทรุดตัวลงนั่ง กล่องข้าวที่อยู่ในมือตกลงบนพื้นอีกครั้ง

ทำไมกล่องข้าวมันเละอย่างนี้ล่ะบอส แล้วไอ้ที่ว่าจบนี่มันอะไร โรมาริโอ้นั่งลงดูอาการของผู้เป็นนายด้วยความสงสัย

คะ....เคียวยะ เกลียดฉัน นายได้ยินมั้ย เคียวยะเกลียดฉัน!!!” ความอดทนที่มีมากมาย.....ถูกพังทลายจนเป็นสายธารแห่งความเสียใจ กำลังใจที่เคยมีกลับเหือดหาย ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแทนที่ด้วย..... “ความเจ็บปวด”

โธ่..ไม่เป็นไรนะ บอส พรุ่งนี้เดี๋ยวเคียวยะก็…..”

ไม่!......มันไม่มีอีกแล้ว ฉันไม่อยากทำอีกแล้ว ร่างสูงเปล่งเสียงขึ้นแข่งกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด

........ฉันเจ็บ......เกินพอแล้ว เมื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในวันต่อๆไป ร่างสูงก็ท้อเสียจนไม่อยากจะหยัดยืนอีก

ได้บอส....งั้นเรากลับกันเถอะโรมาริโอ้พยุงร่างของผู้เป็นนายไปยังรถที่จอดรออยู่......ก่อนที่รถจะแล่นออกไป












* Xð *

เที่ยงแล้วสินะ เดี๋ยวก็คงมาอีก ร่างบางเอ่ยขึ้นลอยๆ หลังจากเสียงออดเวลาพักกลางวันดังขึ้น

คนอย่างหมอนั่น ไม่มีทางทำได้อย่างที่พูดหรอก เสียงหวานกล่าวเย้ย พลางหยิบหนังสือขึ้นอ่าน

หัวหน้าครับ จะทานอะไรดีครับ คุซาคาเบะเดินเข้ามาเพื่อรอรับคำสั่งเหมือนเช่นเคย......

ฉันอยากกินโทะคัตสึ ที่ร้านตรงหัวมุมหน้าโรงเรียน แล้วก็คำสั่งที่เอาแต่ใจอย่างเคย......

ได้ครับ... เมื่อได้รับคำสั่งก็ออกไปทำตามดั่งเคย......

            เพียงครู่เดียวอาหารที่สั่งก็ถูกส่งมือผู้รับ.....ร่างบางยังคงทานอาหารกลางวันไปโดยไม่ได้สนใจเวลา แล้วก็คงไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไป.....

น้ำชาครับ.... เมื่อทานเสร็จคุซาคาเบะก็ทำหน้าที่เก็บจานและยกน้ำชาเข้ามาให้

อืม.... คำตอบรับสั้นๆ ฟังดูแล้วคงเป็นเรื่องที่ติดจนเป็นนิสัย ที่คนใกล้ตัวคงรู้ดี  แต่คนที่ขี้น้อยใจล่ะ....เขาจะคิดยังไง?

แปลกนะครับ วันนี้ไม่เห็นคุณดีโน่มาเลย คุซาคาเบะเอ่ยขึ้นพร้อมกับรินชาให้

.................................................. ไม่มีเสียงเอ่ยตอบใดๆ จะมีก็เพียงมือเรียวที่ยกถ้วยชาขึ้นดื่ม

แถมในเมืองก็แทบไม่มีพวกลูกน้องอยู่เลยสักคน

ไปๆซะได้ก็ดี อยู่ไปก็ขวางหูขวางตา ถึงปากจะว่าอย่างนั้น แต่นัยน์ตาคู่สวยกับดูร้อนรนจนเห็นได้ชัด

หัวหน้าครับ....เอ่อ...โกรธอะไรคุณดีโน่เหรอครับ วันนั้นตอนเขาออกไปดูอาการไม่ค่อย...

คนอย่างหมอนั่น ไม่มีค่าพอที่จะให้ฉันโกรธหรอก เลิกถามซักทีออกไปได้แล้ว คนถามยังถามไม่ทันจะจบ คนตอบก็กลับตอบสวนขึ้นมา...ถึงมันไม่ค่อยจะตรงกับอารมณ์จริงๆเท่าไหร่ก็ตาม

ครับ เมื่อรู้สึกได้ว่ารังสีอัมหิตเริ่มมาเยือน คุซาคาเบะก็รีบโค้งรับแล้วออกไปทันที

            ทั้งห้องก็เริ่มเข้าสู่ความเงียบของห้วงเวลา...ที่ค่อยๆผ่านไปอย่างช้า...จากสิบนาทีเป็นครึ่งชั่วโมง...เป็นหนึ่งชั่วโมง...สองชั่วโมง...จนล่วงเลยมาไม่รู้นานเท่าไหร่...ถ้าถือว่านี่เป็นการรอคอย...มันก็นานเกินไป...เกินกว่สที่ใครหลายคนจะรอได้

ฮึ...ไม่มาจริงๆสินะ แต่ร่างบางยังคงรอ...รอที่จะพิสูจน์สิ่งที่ร่างสูงพูดเอาไว้ และถ้าหากร่างสูงทำไม่ได้มันคงจะจบลงไม่สวยแน่ๆ....

ฉันจะคอยดู นายจะทำได้สักกี่น้ำกัน







บอส...นี่ก็เย็นมากแล้วนะ จะไม่ไปหาเคียวยะจริงๆเหรอ ผู้เป็นลูกน้องถามขึ้นขณะกำลังขับรถพานายของตนกลับไปยังที่พัก

ไม่ล่ะ วันนี้ฉันเหนื่อยมากแล้ว กลับเถอะ ร่างสูงเอ่ยเสียงแข็ง

            ทั้งๆที่ในใจเพียงแค่ได้ยินชื่อ เคียวยะร่างบางที่เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้ด้วยใจ...ด้วยความรักที่เขามี...ถึงแม้สิ่งที่ได้รับกลับมา...จะมีเพียงความเจ็บปวด...เจ็บกับความใยดี...ที่ไม่มีให้กันเลยแม้แต่น้อย ความใกล้ชิดกัน...ก็ไม่ได้ช่วยให้ระยะห่างระหว่าง...หัวใจทั้งสองแคบลงตาม...ถึงเขาจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลแค่ไหน...แม้ว่าเขาจะหยิบยื่นสิ่งใดให้ สิ่งที่ได้กลับมาก็ยังคงไม่ใช่...หัวใจของอีกฝ่ายอยู่ดี

แล้วพรุ่งนี้ล่ะบอส ถึงผู้เป็นนายจะปฏิเสธแต่ลูกน้องก็คงจะรู้ใจ

ไม่มีพรุ่งนี้ มะรืนนี้อีกแล้ว ฉันจะไม่ไปที่นามิโมริอีก ถ้ามันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ ร่างสูงกล่าวออกมาดั่งคำปฏิญาณ เสียงที่หนักแน่นแฝงไปด้วยความปวดร้าว

แต่อีกไม่นาน เราก็ต้องมาคุยเรื่องงานกับพวกคุณสึนะอยู่ดีนี่บอสอีกฝ่ายจงใจพูดขัดพร้อมๆกับรถที่แล่นเข้ามาจอดยังหน้าโถงของโรงแรมสุดหรู

เอาไว้ถึงเวลานั้น ฉันจะหาทางเอาเอง ร่างสูงตอบก่อนจะลงจากรถ พร้อมกับเดินเข้าไปในโรงแรมทันที

นั่นสินะ....ดูเหมือนว่าฉัน.....จะไม่เคยมีค่า......ในความรู้สึกของนายเลย
...........ไม่มีโอกาส....................ที่จะได้หวังในสิ่งที่ปรารถนา...........................
ไม่มีสิทธิ์.............แม้แต่จะคิด.....ว่าจะได้รับ ความรัก จากนาย.........


แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร.........ในเมื่อ.....รักแล้วมีแต่......ช้ำ!!!”









            วันเวลาผ่านพ้นไป....นานแค่ไหน...แทบไม่อยากจะรับรู้ จากหนึ่งวันเป็น....สองวัน...สามวัน....จนเป็นอาทิตย์ การรอคอยเริ่มสูญเปล่า...มันเงียบเหงา....และแปรเปลี่ยนเป็นความทรมาน...เมื่อไหร่การรอคอยนี้ถึงจะจบลง....เมื่อไหร่กันนะ.....ที่ความว่างเปล่า....มันจะสิ้นสุดซักที

บอส....แทนที่จะเอาแต่ยืนมองตึกเรียนอยู่อย่างนี้ ไปหาจะไม่ดีกว่าเหรอ ผู้เข้ามาใหม่เข้ามาทักร่างสูงที่ยืนมองทิวทัศน์ของเมืองเบื้องล่าง ผ่านกระจกบนโรงแรมสูง

แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ โรมาริโอ้ จะไปให้เจ็บทำไม มือใหญ่สัมผัสกระจกอย่างแผ่วเบา...เพียงแค่ได้เฝ้ามองห่างๆก็ดีแล้ว....ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่รับรู้....ถึงแม้ไม่ว่ายังไงตนก็ทำได้แค่มองเพียงเท่านั้น

เอาจริงเหรอบอส?....ที่บอกว่าจะตัดใจจากเคียวยะ อีกฝ่ายถามขึ้น

ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่า ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่ถ้าฉันลืมไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องจำมันไปทั้งแบบนี้แหละ คำพูดของร่างสูงสามารถบอกได้เลยว่า...เจ็บปวด.....มากแค่ไหน

ผมรู้นะว่าบอสไม่อยากทำ แล้วจะทรมานตัวเองต่อไปเพื่ออะไร ทำไมไม่ทำตามใจตัวเองบ้าง ผมอยู่กับบอสมานาน ผมไม่เคยเห็นบอสเป็นขนาดนี้มาก่อน และผมก็ไม่อยากเห็นบอสเป็นด้วย โรมาริโอ้กล่าวเตือน

ไม่ใช่ฉันไม่อยากทำ แต่ถ้ามันทำให้เคียวยะต้องเจ็บไปด้วย ฉันจะไม่ทำเด็ดขาด แล้วอีกอย่าง.... ร่างสูงหันกลับมา ในมือกำบางอย่างไว้แน่น...

อะไรครับบอส??? อีกฝ่ายถามขึ้นอย่างสงสัย

....ฉันก็แค่อยากให้เคียวยะรักฉันบ้าง แม้มันจะเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวความรู้สึกของหมอนั่นก็ตาม คำพูดที่เอ่ยออกมาฟังดูเหมือนจะเอาแต่ใจ ...ใครจะรู้ว่ามันคือ....คำขอร้อง...จาก...หัวใจที่เจ็บปวด

แค่นั้นก็พอแล้ว....สำหรับฉัน









หัวหน้าครับนี่รายงานสำหรับวันนี้ครับ คุซาคาเบะเดินเข้ามาในห้องกรรมการคุมกฎพร้อมกับแฟ้มรายงานกองมหึมา

อืม.... ร่างบางตอบรับพลางหยิบแต่ละแฟ้มขึ้นอ่าน

ทุกอย่างในเมืองเป็นปกติ เรียบร้อยดีครับผู้เป็นลูกน้องรายงาน

แล้วพวกเจ้าสัตว์กินพืชนั่นเป็นไง ร่างบางถามขึ้น

ถ้าหมายถึงซาวาดะ สึนะโยชิ โกคุเดระ ฮายาโตะ ยามาโมโตะ ทาเคชิล่ะก็ วุ่นวายเช่นเคยครับ ผู้เป็นลูกน้องตอบ

แล้วพวกเจ้ามาพยศล่ะ ร่างบางถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นรอคำตอบ

เอ่อ....คือ แทบไม่เห็นเลยครับ จะเจอก็แต่คุณโรมาริโอ้ ไม่เห็นคุณดีโน่เลยครับ คุซาคาเบะตอบอ้ำอึ้ง พลางเหลือบมองอารมณ์ของผู้เป็นนาย

เหรอ....... แต่ปฏิกิริยาโต้ตอบก็เย็นชาเช่นเคย

งั้นผมขอตัวนะครับ ว่าจบคุซาคาเบะก็ขอตัวออกไปพร้อมกับแฟ้มที่ตรวจทานเรียบร้อยแล้ว

ชิ....ไม่มีคนมาให้ซัดนี่มันหงุดหงิดจริง ร่างบางว่าพลางหลับตาลงเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า

เคียวยะ...นายจะไม่เห็นใจความรักที่ฉันมีต่อนายบ้างเลยเหรอ คนอย่างนายมันน่าเห็นใจนักรึไง

ก็ฉัน......รักนายนี่ ฉันก็แค่อยากทำอะไรเพื่อนายบ้างรัก อะไรๆก็ รัก พูดเป็นคำเดียวรึไง

อืม......ฉันจะไม่มาให้เคียวยะ เห็นหน้าอีก จะไม่มายุ่งหรือมาทำให้รำคาญเลย แต่ถ้านายเห็นหน้าฉันอีก จะซัดฉันให้ตายอยู่ตรงนั้นเลยก็ได้ แล้วถ้านายรักฉันจริง ทำไมไม่อดทนให้มากกว่านี้

อ่อนแอชะมัด....แล้วทำไมเราต้องคิดถึงหมอนี่ด้วย ร่างบางว่าพลางลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ แต่ถึงจะมองหาแค่ไหน....ก็คงจะพบแต่ความว่างเปล่า

อารมณ์เสียชะมัด ไปซัดเจ้าพวกสัตว์กินพืชนั่นคลายเครียดดีกว่า ร่างบางเอ่ยก่อนจะลุกออกจากห้องไป












จ๊าก!!!!!รีบอร์นแกจะทำอาร๊าย~~~~~” เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังขึ้นหน้าห้องของเด็กๆปี 2 ห้อง A แห่งนามิโมริที่ยังไม่รู้ว่าชะตาตัวเองกำลัง.....จะถึงฆาต

รุ่นที่สิบครับเป็นอะไรรึเปล่า!!!!” เสียงจากหนุ่มน้อยผมสีเงินที่รีบแจ้นออกมาดูหนุ่มน้อยอีกคนที่กลิ้งออกมายังระเบียงทางเดินข้างหน้าห้องเรียน

ฮะๆๆๆ สึนะโดนเข้าเต็มๆเลย และอีกคนที่เดินออกมาพร้อมกับเด็กตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่

ยามาโมโตะ แกจะหัวเราะหาอะไรฟะ หนุ่มน้อยหัวสีเงินหันกลับมาหวังจะเอาเรื่องคนข้างหลัง

ก็มันตลกนี่ โกคุเดระนายก็หัดยิ้มซะบ้างสิ เดี๋ยวหน้าตาน่ารักๆนี่จะเสียหมด เด็กหนุ่มนามยามาโมโตะกล่าวพร้อมกับยื่นมือไปจับแก้มนุ่มๆของอีกฝ่าย

อะ.....จะ...จะบ้ารึไงฟะ...คะ...ใครน่ารัก หนุ่มน้อยนามโกคุเดระเอ่ยว่า แต่ใบหน้ากลับแดงระเรื่อไปด้วยความอาย

เอ่อ....พวกนาย เข้าห้องเถอะ เพื่อร่วมห้องออกมาเตือนพร้อมกับโบกมือเรียก ใบหน้าเริ่มซีดเผือด

ทะ...ทำไมเหรอ? หนุ่มน้อยนาม สึนะ เอ่ยถามทั้งๆที่ตัวเองยังกองอยู่ที่พื้น

นู่นไง...นู่น.....นู่น อีกฝ่ายชี้ก่อนจะรีบเข้าห้องไปและปิดประตูหนีกันหมด เหมือนกับห้องอื่นๆ

อะไร...ของเขานะ....คะ...คุณฮิบาริ แต่เมื่อหันไปเจอกับตัวเองเขาถึงได้รู้ว่า.....ความซวยมาเยือนแล้ว

อารมณ์ดีกันจังนะ ถึงออกมาทำให้โรงเรียนของฉันวุ่นวายอย่างนี้ ร่างบางเดินเข้ามาอย่างหาเรื่อง

พะ...พวกเราขอโทษครับ จะเก็บกวาดเดี่ยวนี่แหละครับ สึนะรีบลุกขึ้นแทบจะทันที

นั่นมันของแน่ แต่นายต้องโดนฉันซัดแก้เครียดก่อน แล้วค่อยไปทำ มือไวเท่าความคิดร่างบางฉวยเอาทอนฟาออกมาพร้อมกับฟาดใส่สึนะทันที

รุ่นที่สิบ!!!!!!!”  

สึนะ!!!!!!!”

อะ......มะ...ไม่เจ็บ ทำไม?...คะ.....คุณดีโน่ เมื่อพิจารณาแล้วว่าตนไม่บาดเจ็บ สึนะก็รีบเงยหน้าขึ้นมองปาฏิหาริย์....แต่ไม่ใช่ กลับกลายเป็นศิษย์พี่ของตนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน

โผล่หัวออกมาจากหลุมแล้วเหรอ เจ้าม้าพยศ ร่างบางยิ้มอย่างพอใจ

ถ้าไม่จำเป็นฉันก็ไม่อยากมานักหรอก แต่ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับสึนะ เพราะงั้นฉันจะให้นายทำร้ายเขาไม่ได้   ร่างสูงพูดออกไปพร้อมกับถอยออกห่างจากร่างบาง

ฮึ....คงจะไม่ลืมที่เคยพูดไว้นะว่า ถ้าฉันเห็นหน้านายอีก ก็ให้ซัดให้ตาย ร่างบางเอ่ยทวงสิ่งที่ร่างสูงเคยพูดไว้

ฉันจำได้... แน่นอนเรื่องวันนั้น.....จะลืมมันไปได้ยังไง

งั้นก็จงตายอยู่ที่นี่ซะ ว่าจบร่างบางก็พุ่งใส่ร่างสูงทันที

ตอนนี้คงจะไม่ได้ เพราะฉันมีเรื่องต้องทำ ร่างสูงไม่มีท่าทีจะโต้กลับได้แต่คอยตั้งท่ารับเท่านั้น

คิดจะหนีงั้นสิ ร่างบางกล่าวเย้ย

ฉันไม่หนีไปไหนหรอก นายไปรอที่ดาดฟ้าได้เลย เสร็จธุระแล้วฉันจะตามไปทันที ร่างสูงเอ่ยอย่างหนักแน่น

อย่าผิดคำพูดแล้วกัน ไม่งั้นฉันจะขย้ำเจ้าพวกนั้นด้วย ร่างบางลดอาวุธลงพร้อมกับเสียงหวานที่กล่าวเป็นเชิงขู่ไว้

ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก ร่างสูงพยักหน้ารับ ร่างบางจึงยอมจากไปแต่โดยดี

คุณดีโน่มีเรื่องกับคุณฮิบาริเหรอครับ สึนะเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เป็นปกติแล้วจึงถามขึ้น

เปล่าหรอกสึนะ เรื่องมันก็..........ไม่มีอะไร ร่างสูงตอบพร้อมกับยิ้มให้

จะให้ตอบว่าไงล่ะ เคียวยะ บอกว่าเรื่องมันเกิดเพราะ ฉันรักนายดี รึว่า นายเกลียดฉันดี....










แอ๊ด..... เสียงประตูถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงสง่า...ใบหน้าหล่อเหลากับสีหน้าเศร้าๆที่ไม่เข้ากัน

นึกว่าหนีไปแล้วซะอีก นั่นน่ะไม่พาลูกน้องมาจะไม่อวดดีไปหน่อยเหรอ และเมื่อก้าวขึ้นมาบนดาดฟ้า สิ่งแรกที่ได้รับก็คือ..... คำดูถูก

ไม่จำเป็น เรื่องของเราไม่ต้องให้ใครมารับรู้ด้วย แค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว ใช่....เรื่องของตัวเอง ก็ขอให้มันจบด้วยตัวเองจะดีกว่า

ก็แปลว่าเตรียมใจมาดีแล้วสินะ ร่างบางว่าก่อนจะเดินเข้าหาอีกฝ่ายอย่างจงใจ

อืม....ซัดให้พอใจเลย ฉันจะไม่ตอบโต้เด็ดขาด ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับยืนนิ่งอยู่กับที่

แล้วมันจะสนุกตรงไหน!!!!” ร่างบางเอ่ยถามด้วยความโมโห

ทำไม?? นายไม่กล้าซัดฉันรึไง ร่างสูงก็ยังยั่วโมโห

ปากนั่นแหละที่จะโดนก่อน มือไวเท่าความคิด ร่างบางใช้ทอนฟาฟาดเข้าไปที่ใบหน้าทันที

....................................... ไม่มีเสียงต่อว่าใดๆ มีเพียงแต่นัยน์ตาสีทองที่จ้องมองกลับมาด้วยความท้าทาย

ฮึ.....จะเอากระดูกกลับไปกี่ชิ้น หรือ จะให้ฉันหักให้หมดแล้วฝังมันไว้ตรงนี้ ร่างบางโมโหยิ่งกว่าเดิม

ก็ดีนะ ฉันจะได้อยู่กับเคียวยะที่นี่ตลอดไป เป็นคำพูดแรกที่เอ่ยออกมาด้วยใจจริง.........

ยังไม่แรงพอจะทำให้ปากนั่นสงบได้จริงๆสินะ ร่างบางฉุนจนยืนไม่ติด

เอาเลยเคียวยะ ถ้าฉันตายไปจริงๆมันอาจจะไม่ทรมานเหมือนตอนนี้ก็ได้ แล้วฉันก็ดีใจนะที่ได้ตายด้วยมือของนาย ร่างสูงยังคงยิ้มรับโดยไม่ขัดขืนใดๆ

พูดแล้วก็อย่าหวังว่าฉันจะหยุดเด็ดขาดล่ะ ร่างบางเอ่ยนัยน์ตาคู่สวยจ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตา

อืม..... ร่างสูงพยักหน้า

            ร่างบางพุ่งเข้าใส่ทันทีก่อนจะเริ่มประทุษร้ายอีกฝ่าย.....ครั้งแล้ว....ครั้งเล่า....ไม่ยอมหยุด เพื่อระบายความโกรธทั้งหมด ที่ตนไม่สามารถหาทางออกได้.....ไม่ต่างอะไรกับอีกคน...ที่ยอมให้กระทำแต่โดยดี...ไม่ว่าจะล้มบ่อยแค่ไหน....ก็ยังลุกขึ้นมาใหม่....ไม่รู้กี่ครั้ง...ต่อกี่ครั้ง...และไม่ยอมตอบโต้เลยแม้แต่น้อย......บาดแผลตามร่างกายที่เกิดจากฝีมือของร่างบางนั้น...แทบจะเทียบไม่ได้กับภายในหัวใจ....ที่ถูกความเจ็บปวด...รุมทำร้าย

ทำไมนายไม่สู้ ร่างบางถามทั้งๆที่ยังไม่หยุดการกระทำของตน

........................................ ร่างสูงไม่ได้เอ่ยตอบอะไร ขาทั้งสองข้างแทบจะไร้เรี่ยวแรงบวกกับความเจ็บปวดจากบาดแผล ก็ทำเอายืนแทบไม่อยู่

ฉันถาม...ไม่ได้ยินรึไง!!!” ร่างบางฟาดเข้าอย่างแรงจนร่างสูงลงไปกองอยู่ที่พื้น และถ้ายังยืนขึ้นมา...ก็คงจะโดนอีก

ฉันฟาดโดนหูนายจนหนวกไปแล้วรึไง นายถึงไม่ตอบฉัน ร่างบางหยุดยืนมองด้วยความเหนื่อย ถึงแม้จะเป็นคนทำร้ายอีกฝ่าย....ก็ใช่ว่าตนจะไม่เหนื่อย....จะไม่เครียดเลย.....หรือไม่รู้สึกเจ็บปวดด้วย

......รั....ก.......คะ....เคีย.....วยะ....... คำตอบที่แผ่วเบาถูกเอ่ยออกมา พร้อมๆกับร่างสูงที่พยายามลุกขึ้น แต่มันก็คงมาถึงขีดสุดแล้วจริงๆ ทั่วทั้งร่างล้าไปหมดจนล้มกลับลงไปนั่งอีกครั้ง.....

อะไร? ยังจะลุกขึ้นมาอีกรึไง ถ้าไหวก็ลุกมาสิ ร่างบางท้าทาย ถึงแม้จะไม่เชื่อสายตาว่าร่างสูงจะยังลุกขึ้นมาได้

ฉันจะถามอีกครั้ง ทำไมนายไม่สู้ ร่างบางยังคงถามคำเดิม

............................................ แต่ร่างสูงก็ยังคงเงียบ ถึงแม้จะบอกออกไปแล้ว....แต่มันก็คงจะส่งไปไม่ถึง

เคร้ง!!!!” ร่างบางสะบัดอาวุธคู่กายทิ้งพร้อมกับตรงเข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายอย่างแรง

ทำไมนายไม่ตอบ!!! ตอบสิ! ฉันบอกให้ตอบ!!” ร่างบางตะคอกใส่

เพราะ....ฉัน......รัก......เคียวยะ ร่างสูงตอบแม้จะแทบไม่มีแรงตอบแล้วก็ตาม

ไม่มีอย่างอื่นจะตอบแล้วรึไง!!” ร่างบางโกรธจนลืมตัวตวาดออกไป ร่างสูงพยักหน้ารับ

ใช่....เพราะฉันรักนาย ฉันถึงไม่ตอบโต้ ไม่มีใครอยากทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเจ็บหรอกนะ นัยน์ตาสีทองจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง......และด้วยความจริงใจ....ที่มีให้ทั้งหมด

งี่เง่าที่สุด ยอมเจ็บตัว เพื่อเรื่องไร้สาระ ร่างบางปล่อยคอเสื้อของอีกฝ่ายก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง

เคียวยะ ถ้านายเริ่มรักใครสักคนแล้ว นายก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องไร้สาระซักนิด ร่างสูงกล่าว

จะพูดเรื่องบ้าๆนี่อีกนานมั๊ย จะไปไหนก็ไป แล้วฉันคงจะไม่เห็นหน้านายอีกนะ ร่างบางเอ่ยไล่

................................................... ก็ยังเหมือนเดิม......ไม่พอใจก็ไล่.......ฉันควรทำยังไงดี

อะไรอีกล่ะ รู้บ้างมั๊ย......ฉันเจ็บปวดนะ.....ที่ไม่ได้เห็นหน้านาย....แต่สู้ไม่มาเลยจะดีกว่า.....ยังไงมันก็คงจะเจ็บน้อยกว่า.....ถ้าต้องโดนนายทำท่าทีแบบนี้ใส่

ขอบคุณนะเคียวยะ ที่ยังยอมคุยกับฉัน แล้วก็.....ขอโทษด้วยที่มารบกวน.....ฉันไปนะ นั่นสินะ....ไปให้ไกล...ก่อนอะไรๆมันจะแย่ลงกว่านี้......

            ร่างสูงค่อยๆเดินลงมาจากดาดฟ้า เมื่อพวกลูกน้องเห็นจึงรีบเข้ามาพยุงทันที.....แต่ไม่มีใครเลยที่จะถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรู้ว่าถามไปก็ไม่มีประโยชน์ ร่างสูงเมื่อขึ้นรถได้ก็นิ่งเงียบไม่ปริปากพูดอะไร ได้แต่มองออกไปนอกรถ ภายใต้ทิวทัศน์ของเมืองยามอาทิตย์อัสดง ตะวันที่ค่อยๆลับขอบฟ้า สาดแสงหม่นปกคลุมไปทั่วพื้นปฐพี นัยน์ตาสีทองค่อยๆปิดลง.....พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากความเจ็บปวดใน “หัวใจ”.......

เจ็บใจจริงๆ......ที่ลืมไม่ลง

...ทั้งที่รู้ว่านายไม่เห็นใจ...ก็ยังทน....จนใจเจ็บปวด

 “แต่ที่เจ็บที่สุด.......คือฉัน........ที่ตัดใจจากนายไม่ได้


รู้ทั้งรู้แท้ๆว่า......เป็นคนที่นายไม่ต้องการ.......ก็ยัง.......จะรักนายต่อไป



To be continued…….Part 2>>>

ความคิดเห็น